ปรับปรุงขอมูลครั้งสุดทาย�?มื่อ 23/8/2544

                                                                                                         รหัส คพ. ที�?: คพ/-

1. การชี้บงเคมีภัณฑ (Chemical Identification)

   ชื่อ�?คม�? IUPAC : Sulfuric acid

   ชื่อ�?คมีทั่วไ�? : Sulfuric acid

                     Oil of vitriol; BOU; Dipping Acid; Vitriol Brown Oil; Sulfuric; Acid Mist; Hydrogen sulfate; Sulfur acid; Sulfuric

   ชื่อพองอื่น�? :

                    acid, spent;



   สูตรโม�?ลกุล :                                                สูตรโครงสรา�? :





                                                               รหัส UN/ID NO. : 1830                       รหัส EC NO. : 016-020-00-8

   รหัส IMO :

                                                                   รหัส CAS NO. : 7664-93-9                รหัส RTECS : WS 5600000



   รหัส EUEINECS/ELINCS : 231-639-5                         ชื่อวงศ : -









2. ชื่อผูผลิ�?/จําหนาย (Manufacturer and Distributor)

   ชื่อผูผลิ�?/นําเข�? : Kyhochem (pty) Limited

   แหลงขอมูลอื่นๆ : Modderfontein Ganteng 1645









3. การใชประโยชน (Uses)

     - ใชเปนตัว�?รงปฏิกิริยา �?ปนสารละลายอิเล็กโตรไลต �?ปนตัวชะลางถานหิ�? �?ปนตัวแลกเปลี่ยนไอออ�?









4. คามาตรฐานและความเปนพิษ (Standard and Toxicity)

                                                                           3

                        2140             ( หน�?)            LC (มก./�? ) : 510                /2               ชั่วโม�?     ( หน�?)

   LD (มก./กก.) :

      50                                                      50

                          0.25                             ADI(ppm) : -                                   MAC(ppm) : -

   IDLH(ppm) :

   PEL-TWA(ppm) : 3.75                                PEL-STEL(ppm) : -                                  PEL-C(ppm) : -

   TLV-TWA(ppm) : 0.25                          TLV-STEL(ppm) : 0.75                                             TLV-C(ppm) : -

                                                                  -

   พร�?. สงเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ�? �?.�?. 2535(ppm) :

   พร�?. โรงงาน �?.�?. 2535 (ppm) : -                                                                  ชนิดที�? 1     ชนิดที�? 2       ชนิดที�? 3

                                          พร�?. ควบคุมยุทธภัณฑ�? �?.�?. 2530 :

                                                                    0.25 ระยะสั้น -             คาสูงสุ�? -

   พร�?. คุมครองแรงงาน �?.�?. 2541 (ppm) �?ฉลี่�? 8 ชั่วโม�? :                                                        สารเคมีอันตราย :

   พร�?. วัตถุอันตราย �?.�?. 2535 :                                                     ชนิดที�? 4 หนวยงานที่รับผิดชอบ : กรมโรงงานอุตสาหกรร�?

                                        ชนิดที�? 1       ชนิดที�? 2    ชนิดที�? 3









5. คุณสมบัติทางกายภาพและเคม�? (Physical and Chemical Properties)

   สถาน�? : ของเหล�?                       สี : ไมมีส�?                      กลิ่�? : ไมมีกลิ่น                   นน.โม�?ลกุล : 98

           0                                                           0

   จุดเดือด( �?.) : 276                 จุดหลอมเหล�?/จุดเยือกแข็ง( �?.) : -1 - (-30)                      ความถวงจําเพา�?(น้ํา=1) : 1.84

                                      ความดันไ�?(มม.ปรอท) : 0.001 ที�? 20 0�?. ความหนาแนนไ�?(อากา�?=1) : 3.4

   ความหนืด(mPa.sec) :        26.9

                                                ละลายน้ํ�?

                                                           ที�? 20 0�?. ความ�?ปนกรด-ดาง(pH) : -                                                0�?.

   ความสามารถในการละลายน้ําที�?(กรัม/100 มล.) : ได�?                                                 ที�? -

                                                         3                 3                                        0�?.

                                      4.07                                        0.25          ppm ที�? 25

   แฟคเตอรแปลงหนว�? 1 ppm =                        มก./�? หรือ 1 มก./�? =

   ขอมูลทางกายภาพและ�?คมีอื่�? �? :









6. อันตรายตอสุขภาพอนามัย (Health Effect)

                               - การหายใจ�?ขาไ�? สารนี้มีฤทธิ์กัดกรอนและกอให�?กิดการระคายเคืองตอระบบทาง�?ดินหายใจ ทําใหมี

   สัมผัสทางหายใจ :

                              อาการน้ําทวมปอด �?จ็บค�? ไอ หายใจติดขั�? และหายใจถี่รัว การหายใจ�?อาสารที่ความ�?ขมขนสูงอาจทําให

                              �?สียชีวิตได�?

                               - การสัมผัสถูกผิวหนั�? สารนี้มีฤทธิ์กัดกรอ�? ทําให�?ปนแผลไหม และปวดแสบปวดรอน

   สัมผัสทางผิวหนัง :







                               - การกลืนหรือการกินเขาไ�? ทําใหคลื่นไส อา�?จียน แตไมมีผลตอเนื้อ�?ยื่อ

   กินหรือกลืนเขาไ�? :

                               - การสัมผัสถูกตา สารนี้มีฤทธิ์กัดกรอ�? ทําใหตาแด�? ปวดต�? และสายตาพรามั�?

   สัมผัสถูกต�? :

   การกอมะ�?ร็�? :

                               - สารนี้มีผลทําลายฟ�? ระบบหลอด�?ลือด�?ลี้ยงหัวใจ

   ความผิดปกต�?,อื่น �? :









7. ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา (Stability and Reaction)

     - สารที่�?ขากันไมได : �?บสแก�? น้ํา สารอินทรีย�? โลหะอัลคาไลน�?

    - สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : �?มื่อทําปฏิกิริยากับโลหะจะเกิดออกไซดของกํามะถันและไฮโดรเจน

    - สารนี้ทําปฏิกิริยากับสารอินทรียทําให�?กิดเพลิงไหมและการระ�?บิ�?









8. การเกิดอัคคีภัยและการระเบิ�? (Fire and Explosion)



             0                                                 0

   จุดวาบไฟ( �?.) : -                        จุดลุกติดไฟได�?อง( �?.) : -                      NFPA Code :

                        - UEL % :         - LFL % :           - UFL % :            -

   ค�? LEL % :

    - สารนี้ไมไวไ�?

   - สารดับ�?พลิง ในกรณี�?กิดเพลิงไหมใหใชคารบอนไดออกไซด ผง�?คมีแห�? น้ํา

   - สารเคมีอันตรายจากการ�?ผาไหม : ออกไซดของกํามะถัน

   - สารนี้�?มื่อทําปฏิกิริยากับสารอินทรีย อาจทําใหเกิดเพลิงไหมและการระ�?บิดได









9. การเก็บรักษา/สถานที่เก็�?/�?คลื่อนยาย/ขนส�? (Storage and Handling)

      - �?ก็บในภาชนะบรรจุที่ปดมิดชิ�?

    - �?ก็บในบริ�?วณที่เย็นและแหง

    - �?ก็บในบริ�?วณที่มีการระบายอากาศ�?พียงพอ

    - �?ก็บหางจากแส�? ไอน้ํา �?บสแก�? สารประกอบอินทรีย�?

    - �?ก็บภาชนะบรรจุสารไวในบริ�?วณ�?ก็บสาร�?คมีที่�?หมาะสม

    - หลีก�?ลี่ยงการหายใจและการสัมผัสถูกผิวหนังและตา

    - ชื่อในการขนสง : Sulphuric acid

    - ประเภทอันตรา�? : 8

    - รหัส UN : 1830









10. การกําจัดกรณีรั่วไหล (Leak and Spill)

      - วิธีการปฏิบัติในกรณี�?กิดการหกรั่วไหลใหกั้นบริเวณสารหกแยกจากบริ�?วณอื่น

    - ใหดูดซับสารที่หกรั่วไหลดวยสารอัลคาไลด �?ช�? โซดาแอซ สารอนินทรีย หรือดิ�?

   - �?ก็บสวนที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปดมิดชิดเพื่อนําไปกําจั�?

   - ลางบริเวณสารหกรั่วไหล หลังจากสาร�?คมีถูก�?ก็บกวาดเรียบรอยแลว

   - ปองกันไมใหสาร�?คมีที่หกรั่วไห�? ไหลลงสูทอระบายน้ํา แมน้ํ�? และแหลงน้ําอื่น�?

   - ใหสวมใสอุปกรณปองกันอันตรายที่เหมาะสม

   - การพิจารณาการกําจั�? : ปฏิบัติให�?ปนไปตามกฎระ�?บียบที่ทางราชการกําหนด









11. อุปกรณปองกันอันตรายสวนบุคคล (PPD/PPE)









     หนากากปองกันกา�?

                                          ถุงมือ                ชุดปองกันสารเคม�?                                          แวนตานิรภัย

           หายใ�?

   ขอแนะนําการ�?ลือกใชอุปกรณปองกันอันตรายสวนบุคค�?(PPD/PPE) :



     - การเลือกประเภทถุงมือ : แนะนําใหใชถุงมือที่ทํามาจากวัสดุประเภท Laminated film ซึ่งควรมีระยะเวลาที่จะทําให�?กิดการซึมผานผนังของถุงมือ (Permeation Breakthrough

   time) มากกว�? 480 นาที และควรมีอัตราการ�?สื่อมสภาพของถุงมือ (Degradation Rating) อยูในระดั�? และไมแนะนําใหใชถุงมือที่ทํามาจากวัสดุประเภท Nitrile , Supported

   Polyvinyl Alcoho, Natural Rubber, Neoprene/Natural Rubber Blend

   - ขอแนะนําในการ�?ลือกประเภทหนากากปองกันระบบหายใ�?

   - สารที่ชวงความ�?ขมขนไมเกิ�? 15 mg/m3 ใหใชอุปกรณชวยหายใจประเภทที่ใชการสงอากาศสําหรับการหายใจ ซึ่งมีอัตราการไหลของอากาศแบบตอเนื่อ�? โดยแนะนําใหใชอุปกรณที�?

   มีค�? APF. = 25 หรือ ใหใชอุปกรณทําใหอากาศบริสุทธิ�? (Air - purifying respirator) ซึ่งมี Cartridge สําหรับปองกันกาซของสารจําพวกกร�? และอุปกรณกรองอนุภาคประสิทธิภา�?

   สู�? (HEPA filter) โดยแนะนําใหใชอุปกรณที่มีคา APF. = 25 หรือ ใหเลือกใชอุปกรณปองกันระบบหายใจ ซึ่งใชสาร�?คมีประ�?ภทที่เหมาะสม�?ปนตัวดูดซับในการกรอ�? (Cartridge)

   พรอมหนากากาแบบ�?ต็มหน�? พรอ�? Cartridge สําหรับปองกันกาซของสารจําพวกกร�? และอุปกรณกรองอนุภาคประสิทธิภาพสูง (HEPA filter) โดยแนะนําใหใชอุปกรณที่มีคา

   APF. = 50 หรือ ใหใชอุปกรณทําใหอากาศบริสุทธิ�? (Air - purifying respirator) พรอมหนากากแบบเต็มหน�? (gas mask) ซึ่งมี Canistr สําหรับปองกันกาซของสารจําพวกกร�? แล�?

   อุปกรณกรองอนุภาคประสิทธิภาพสู�? โดยแนะนําใหใชอุปกรณที่มีคา APF. = 50 ใหใชอุปกรณชวยหายใจชนิดที่มีถังอากาศในตัว (SCBA) พรอมหนากากาแบบ�?ต็มหน�? โดยแนะนําให

   ใชอุปกรณที่มีคา APF. = 50 หรือ ใหใชอุปกรณสงอากาศสําหรับการหายใจ (Supplied air respirator) พรอมหนากากแบบเต็มหน�? โดยแนะนําใหใชอุปกรณที่มีคา APF. = 50

   - ในกรณีที่เกิดเหตุฉุก�?ฉิ�? หรือการเขาไปสัมผัสกับสารที่ไมทราบชวงความเขมขน หรือการเขาไปในบริ�?วณที่มีสภาวะอากาศที่�?ป�? IDLH : ใหใชอุปกรณชวยหายใจชนิดที่มีถังอากา�?

   ในตั�? (SCBA) พรอมหนากากแบบเต็มหน�? ซึ่งมีการทํางานแบบความดันภายใน�?ปนบวก ( pressure-demand / positive pressure mode) โดยแนะนําใหใชอุปกรณที่มีคา APF. =

   10,000 หรือใหใชอุปกรณสงอากาศสําหรับการหายใจ (Supplied - air respirator) พรอมหนากากแบบเต็มหน�? ซึ่งมีการทํางานแบบความดันภายใน�?ปนบวก ( pressure-demand /

   positive pressure mode) หรือแบบที่ใชการทํางานรวมกันระหวางอุปกรณชวยหายใจชนิดมีถังอากาศในตั�? และแบบความดันภายใน�?ปนบวก (combination with an auxiliary self-

   contained positive-pressure breathing apparatus) โดยแนะนําใหใชอุปกรณที่มีคา APF. = 10,000

   - ในกรณีการหลบหนีออกจากสถานการณฉุกเฉิ�? : ใหใชอุปกรณทําใหอากาศบริสุทธิ�? (Air - purifying respirator) พรอมหนากากแบบเต็มหน�? (gas mask) ซึ่งมี Canister สําหรั�?

   ปองกันกาซของสารจําพวกกรด และอุปกรณกรองอนุภาคประสิทธิภาพสูง (HEPA filter) หรือใหใชอุปกรณที่�?หมาะสมสําหรับในกรณีการหลบหนีออกจากสถานการณฉุก�?ฉิ�? พรอ�?

   อุปกรณชวยหายใจชนิดมีถังอากาศในตั�? (SCBA) โดยแนะนําใหใชอุปกรณที่มีคา APF. = 50









12. การปฐมพยาบาล (First Aid)

                                  - ถาหายใจ�?ขาไ�? ใหเคลื่อนยายผูปวยออกสูบริ�?วณที่มีอากาศบริสุทธิ�? ถาผูปวยหยุดหายใจใหชวยผายปอด ถ�?

   หายใจเขาไ�? :

                                  หายใจติดขัดใหออกซิเจนชวย รักษารางกายผูปวยใหอบอุนและอยูนิ่�? นําสงไปพบแพทย�?

                                   - ถากลืนหรือกิน�?ขาไ�? อยากระตุนให�?กิดการอา�?จียน ใหผูปวยบวนลางปากดวยน้ํ�? ใหผูปวยดื่มน้ํา 200-300

    กินหรือกลืนเขาไ�? :

                                  มิลลิลิต�? นําสงไปพบแพทย�?

                                    - ถาสัมผัสถูกผิวหนั�? ใหฉีดลางผิวหนังทันทีดวยน้ําปริมาณมากอยางนอย 15 นาที นําสงไปพบแพทย�?

    สัมผัสถูกผิวหนัง :

                                    - ถาสัมผัสถูกตา ใหฉีดลางตาทันทีดวยน้ําปริมาณมากอยางนอ�? 15 นาที นําสงไปพบแพทย�?

    สัมผัสถูกต�? :



                                   - การรักษาอื่น �? อยูในการวินิจฉัยของแพทยภายใน 24 ชั่วโม�? อาการเกี่ยวกับปอดบวม อักเสบ บางทีอาจจะ

    อื่น �?:

                                  มีขึ้น









13. ผลกระทบตอสิ่งแวดลอ�? (Environmental Impacts)

     - หามทิ้งลงสูแหลงน้ํา น้ํา�?สี�? หรือดิ�?









14. การเก็บตัวอยางและวิ�?คราะห (Sampling and Analytical)

   NMAM NO. : 7903                                                                         OSHA NO. : ID 165SG

                                        กระดาษกรอง               หลอด�?ก็บตัวอยา�?           อิมพิ้นเจอร

   วิธีการเก็บตัวอยา�? :

                                ชั่งน้ําหนัก                 สเปคโตโฟโตมิ�?ตอร         แกซโครมาโตกราฟฟ�?            อะตอมมิกแอบซอปชั่น

   วิธีการวิเคราะห :

   ขอมูลอื่น �? :

     - การเก็บตัวอยางใชหลอดขนาด 400 mg/200mg. แล�? glass fiber filter

   - อัตราการไหลสําหรับ�?ก็บตัวอยา�? 0.2 ถึ�? 0.5 ลิตรตอนาท�?

   - ปริมาตรเก็บตัวอยางต่ําสุด-สูงสุด 0.3 ลิตร , 100 ลิตร









15. การปฎิบัติกรณีฉุกเฉิ�? (Emergency Response)

                    AVERS Guide : 42                                                DOT Guide : 137



   - กรณีฉุกเฉินโปรดใชบริการระบบใหบริการขอมูลการระงับอุบัติภัยจากสาร�?คมีทางโทรศัพทหรือสายดว�? AVERS ที่หมายเลข

   โทรศัพท 1650



   - ตองการทราบรายละ�?อียด�?พิ่ม�?ติมโปรดติดต�? กองจัดการสารอันตรายและกากของ�?สี�? กรมควบคุมมลพิษ โท�? 0 2298 2447 ,0 2298

   2457







16. �?อกสารอางอิง (Reference)

   1. "Chemical Safety Sheet ,Samsom Chemical Publisher ,1991 ,หนา 838"

   2. "NIOSH Pocket Guide to Chemical Hazards.US.DHHS ,1990 ,หนา 290"

   3. "Lange'S Handbook of Chemistry McGrawHill ,1999 ,หนา -"

   4. "Fire Protection Guide to Hazardous Material ,NFPA ,1994 ,หนา -"

   5. "ITP. SAX'S Dangerous Properties of Industrial Materials ,1996 ,หนา 3046"

   6. "สอ�?.มาตรฐานสาร�?คมีในอากาศและดัชนีวัดทางชีวภาพ ,นําอักษรการพิมพ ,2543 ,หนา 53"

   7. "http://www.cdc.gov/NIOSH ,CISC Card. ,0362"

   8. "Firefighter 's Hazardous Materials Reference Book ,1997 ,หนา -"

   9." ACGIH. 2000 TLVs and BEIs Threshold Limit Values for Chemical Substances and Physical Agents ,and

   Biological Exposure Indices. Ohio.,2000 ,หนา 53"

   10. Source of Ignition หนา-"

   11. "อื่น �?"http:\\chemtgrack.trf.or.th"









พัฒนาโปรแกรมและรวบรวมขอมูลโดย คณะวิศวกรรมศาสตร�? สถาบัน�?ทคโนโลยีพระจอม�?กลาพระนคร�?หนือ



                                              หากมีขอสงสัยหรือขอ�?สนอแนะโปรดติดตอ



                                     กองจัดการสารอันตรายและกากของ�?สี�? กรมควบคุมมลพิษ

                                            โทรศัพท : 0 2298 2447, 0 2298 2457

                                                  โทรสาร : 0 2298 2451

                                               E-Mail : dbase_c@pcd.go.th